วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

ดอกรักดอกไม้ในวรรณคดี

 รัก
                Crown Flower, Giant lndian Milk
                 weed, Gigantic Swallow-wort
                 Calotropis gigantea (Linn.) R.Br.exAit.
                  (ASCLEPIADACEAE)
                         

                   เห็นต้นรักหักโค่นโคนสะบัด
                   เป็นรอยตัดรักขาดให้หวาดไหว
                   เหมือนตัดรักตัดสวาทขาดอาลัย
                   ด้วยเห็นใจเจ้าเสียแล้วนะแก้วตา
                                      นิราศพระประธม : สุนทรภู่

           ลักษณะทั่วไป ไม้พุ่ม ขนาดเล็ก สูง 1.5-3 ม. ทุกส่วนมีน้ำยาง ขาวเหมือนน้ำนม ตามกิ่งมีขน ใบ ใบเดี่ยวออกตรงข้าม รูปรี แกมขอบขนาน ปลายแหลม โคนเว้า กว้าง
6-8 ซม. ยาว 10-14 ซม เนื้อใบหนาใต้ใบมีขนนุ่ม ก้านสั้น ดอก สีขาวหรือสีม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบสีเทาเงิน หรือสีม่วง กลีบดอก 5 กลีบ
โคนเชื่อมติดกัน เมื่อเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ซม. มีรยางค์เป็นสันคล้ายมงกุฎ 5 เส้น เกสรตัวผู้ 5 อัน ผล เป็นฝักคู่ กว้าง 3-4 ซม. ยาว 6-8 ซม. เมื่อแก่แตกได้ เมล็ดแบนสีน้ำตาล
จำนวนมาก มีขนสีขาวเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายด้านหนึ่ง  ถิ่นกำเนิดอยู่ใน เอเชียกลาง อินเดีย  ออกดอก ตลอดปี  ขยายพันธุ์ โดยใช้เมล็ด ปักชำกิ่ง

          ประโยชน์ เปลือกราก รักษาบิด ทำให้อาเจียน ขับเหงื่อ ยาง มีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถ้าถูกผิวหนังทำให้ระคายเคือง สาระสำคัญ ยางสีขาว มีสารพวก bitter
principle เช่น calotropin ฯลฯ  ดอกใช้ทำดอกไม้ประดิษฐ์

ดอกไม้ในวรรณคดี

กรรณิการ์
     
     กรรณิการ์ก้านสีแสด             คิดผ้าแสดติดขลิบนาง
เห็นเนื้อเรื่อโรงราง             ห่มสองบ่าอ่าโนเนฯ

     ผ้าสีมีขลิบเนื้อ             บางดี
ก้านกรรณิการ์สี             แสดเถ้า
โนเนนาดน้องสี             ลาเลิศ
เมียมิ่งเรียมดูเจ้า             ห่อนได้วางตา

กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์


    * ชื่อวิทยาศาสตร์: Nyctanthes arbortristis Linn.
    * ชื่อสามัญ: กรรณิการ์ (อังกฤษ: Night blooming jasmin - มะลิบานราตรี)
    * ชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ: กณิการ์ กรณิการ์
    * ประเภท: ไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง
    * ลักษณะ:
          o ต้น: สูงประมาณ 3 - 4 เมตร ตามลำต้นจะมีรอยเป็นเส้นคาดรอยต้นเป็นช่วงๆ ไปตามข้อต้น เปลือกของลำต้นนั้นมีสีขาว ลักษณะของลำต้นและกิ่งก้านโดยเฉพาะส่วนที่เป็นแขนงและกิ่งอ่อนจะเป็นสี่ เหลี่ยม บริเวณแนวสันเหลี่ยมของกิ่งหรือลำต้นมีตุ่มเล็ก ๆ ประเป็นแนวอยู่ด้วย
          o ใบ: เป็นไม้ใบเดี่ยวแต่ออกเป็นคู่ๆ สลับกันไปตามข้อของต้น มีรูปมนรี ปลายใบแหลม มีสีเขียวและมีขนอ่อนๆ เป็นละอองปกคลุมอยู่ทั่วใบ มีลักษณะสากคายมือ
          o ดอก: ดอกสีขาว ออกเป็นช่อดอกเล็ก ๆ กระจายที่ปลายกิ่ง ประมาณช่อละ 5 - 8 ดอก แต่ละดอกมี 6 กลีบ กลีบดอกจะบิดเวียนไปทางขวาคล้ายกังหัน วงในดอกเป็นสีแสด หลอดดอกเป็นสีแสด เกสรเป็นเส้นเล็กละเอียดซ้อนอยู่ในหลอดดอก ขนาดของดอกบานเต็มที่ประมาณ 1.50 - 2 เซนติเมตร หลอดดอกยาว 1.50 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 - 8 แฉก ก้านช่อดอกมีใบประดับเล็กๆ 1 คู่ ดอกของกรรณิการ์มีกลิ่นหอมแรง บานกลางคืน ออกดอกตลอดปี
          o ผล: เป็นแผ่นแบนๆ ภายในมีเมล็ด 2 เมล็ด
    * การขยายพันธุ์: โดยการตอน หรือปักชำกิ่ง
    * การดูแล: ขึ้นได้ในดินทั่วไป แต่ต้องการความชุ่มชื้น และปลูกที่กลางแจ้ง
    * ประโยชน์: ใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้หลายชนิด ก้านดอกสามารถนำมาทำเป็นสีย้อมผ้าจีวรพระ หรือสีทำขนม